วันพุธที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2559

หลวงพ่อศิลา วัดทุ่งเสลี่ยม

          
         
หลวงพ่อศิลา  วัดทุ่งเสลี่ยม

          วัดทุ่งเสลี่ยม  ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 3  บ้านทุ่งเสลี่ยม อำเภอทุ่งเสลี่ยม  จังหวัดสุโขทัย  สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย  สร้างเมื่อ  วันเสาร์ ที่ 16  กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2461  ตรงกับ ปีมะเส็ง  จุลศักราช  1279  เดือน 4 ขึ้น 6 ค่ำ  โดยชาวบ้านได้ร่วมกันบริจาคเงิน  ในการดำเนินการก่อสร้างวัด  ซึ่งมีเนื้อที่ 7 ไร่  3  งาน จนวัดทุ่งเสลี่ยมเจริญมาตามลำดับและได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อ วันอังคาร  ที่ 24   เดือน ตุลาคม  พ.ศ. 2482  ตรงกับ ปีเถาะ จุลศักราช  1301  เดือน  11  ขึ้น  11 ค่ำ
            วัดทุ่งเสลี่ยมเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปที่สำคัญและศักดิ์สิทธิ์องค์หนึ่งของไทย คือ  พระพุทธรูปศิลานาคปรกปางสมาธิ  ซึ่งได้อัญเชิญมาจากถ้ำเจ้ารามมาประดิษฐาน ณ วัดทุ่งเสลี่ยม  ตั้งแต่ปีพุทธศักราช  2472  ในสมัยของหลวงพ่ออภัยเป็นเจ้าอาวาส  ซึ่งต่อมาชาวบ้านต่างก็เรียกพระพุทธรูปศิลาองค์นี้ว่า “พระศิลา”
หลวงพ่อศิลา
            หลวงพ่อศิลา  เป็นพระพุทธรูปศิลานาคปรกปางสมาธิสลักจากหินทรายสีเทา  สวมมุงกุฏเทริดติ่งหูทั้งสองประดับด้วยตุ้มหูทรงกรวย  ต้นแขนทั้งสองข้างประดับกำไล นั่งสมาธิบนฐาน 3  ชั้น มีพญานาค 7 เศียร  ปรกอยู่เหนือเศียร  หน้าตักกว้าง  44 ซม. สูง 45.50  ซม.  เป็นศิลปะลพบุรีแบบบายน  สันนิษฐานว่าสร้างประมาณปีพุทธศักราช  1300-1400
            เดิมหลวงพ่อศิลาประดิษฐานอยู่ที่ถ้ำเจ้าราม  อยู่ในเขตติดต่อระหว่าง อ.ทุ่งเสลี่ยม อ.บ้านด่านลานหอย  ซึ่งเป็นถ้ำหินธรรมชาติขนาดใหญ่  ภายในถ้ำมีค้างคาวพันธุ์บัวอาศัยอยู่จำนวนมาก  เมื่อปี พ.ศ.  2472  ท่านครูบาก๋วน จากวัดแม่ปะหลวง อ.เถิน จ.ลำปาง  ได้รวบรวมผู้คนเดินทางไปยังถ้ำเจ้าราม  เมื่อคณะของท่านครูบาก๋วน อัญเชิญพระพุทธรูปนาคปรกมาถึงบริเวณวัดทุ่งเสลี่ยม ก็เกิดปาฏิหาริย์ขึ้นท้องฟ้าที่แจ่มใสแสงแดดที่ร้อนแรงของเดือนเมษายน  ก็ถูกบดบังด้วยเมฆฝน  เกิดฝนตกหนักเป็นเวลานาน  เมื่อฝนหยุดก็มีฝูงค้างคาวบิน มาวนเวียนอยู่เหนือบริเวณวัดแล้วจึงบินกลับถ้ำเจ้ารามไป  ชาวบ้านทุ่งเสลี่ยมได้เห็นความศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธรูปศิลา  ดังนั้นจึงได้พร้อมใจกันอัญเชิญพระพุทธรูปศิลานาคปรก  ประดิษฐานไว้  ณ  วัดทุ่งเสลี่ยม  ตั้งแต่บัดนั้น และเรียกว่า  “พระศิลา”
            ครั้นเมื่อวันที่  29  ตุลาคม  2520  ได้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น  ได้มีกลุ่มคนร้ายไม่ทราบจำนวนเข้าโจรกรรมพระพุทธรูปศิลาไปจากวัดทุ่งเสลี่ยม  พระพุทธรูปศิลาจึงได้หายสาบสูญอย่างไร้ร่องรอยตั้งแต่บัดนั้น
            จนถึงเมื่อปี พ.ศ.  2538  ได้มีกลุ่มอนุรักษ์ชาวไทยในลอนดอนได้พบภาพพระพุทธรูปศิลาจากสถาบันการประมูลวัตถุโบราณ  จึงได้ส่งจดหมายและภาพถ่ายของพระศิลาถึงบรรณาธิการนิตยสารศิลปวัฒนธรรม และได้ตีพิมพ์ปีที่ 16 ฉบับวันที่  6  เดือน เมษายน  2538  พร้อมแสดงความคิดเห็นว่า น่าเป็นศิลปวัตถุที่ลักลอบมาจากประเทศไทย จากเบาะแสดังกล่าวทำให้ชาวทุ่งเสลี่ยม  และคนไทยตื่นตัว ที่จะติดตามเอาพระพุทธรูปศิลากลับคืน
            จากการดำเนินการติดตามที่จริงจังทั้งภาครัฐ  โดย ร.ต.ท. เชาวริน  ลัทธศักดิ์ศิริ  รมช.กระทรวงศึกษาธิการสมัยนั้นและเอกชนที่ให้การสนับสนุน  โดย  บริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี)  มีนายธนินทร์  เจียรวนนท์  ประธานบริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์ และนายวัลลภ  เจียรวนนท์ กรรมการบริหารฯ  ซึ่งได้บริจาคเงินเป็นจำนวน  5,200,000  บาท  ทำให้สามารถติดตามเอาพระพุทธรูปศิลากลับคืนมาสู่มาตุภูมิได้เมื่อวันที่  19  ธันวาคม  2539  คณะทำงานได้อัญเชิญขึ้นน้อมเกล้าถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในปีกาญจนาภิเษกเมื่อ วันที่ 15 กุมภาพันธ์  2540  และพระองค์ทรงโปรดพระราชทานให้นำพระพุทธรูปศิลานาคปรก  กลับคืนไปประดิษฐาน ณ วัดทุ่งเสลี่ยม ดังเดิม จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้คนไทยรู้จักพระพุทธรูปศิลามากขึ้นและต่างเรียกพระพุทธรูปศิลานาคปรกองค์นี้ว่า “หลวงพ่อศิลา”  และได้อัญเชิญหลวงพ่อศิลากลับถึง วัดทุ่งเสลี่ยมเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์  พ.ศ. 2540
กิจกรรมประจำปีวัดทุ่งเสลี่ยม
            24 กุมภาพันธ์  ของทุกปี จัดงานฉลองสมโภชหลวงพ่อศิลากลับคืนสู่วัดทุ่งเสลี่ยม
            13-16  เมษายน ของทุกปี  จัดงานเทศกาลสงกรานต์มีกิจกรรม การสรงน้ำหลวงพ่อศิลา  สรงน้ำพระสงฆ์  รดน้ำดำหัวผู้สูงอายุ และทำพิธีสะเดาะเคราะห์  สืบชะตา  เสริมสิริมงคลชีวิตตามแบบล้านนาไทย
            จัดกิจกรรมวัดสำคัญทางพระพุทธศาสนา เช่น วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา  วันอาสาฬหบูชา ฯลฯ

            จัดกิจกรรม เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม และ 12 สิงหาคม  ของทุกปี  มีการทำบุญตักบาตรปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ



ที่มา:https://www.youtube.com/watch?v=Z4QVUK14eTY











ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ขอขอบพระคุณที่กรุณาแสดงความคิดเห็น